7 พ.ค. 2568

คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังฉีดวัคซีนให้เด็ก


คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังฉีดวัคซีนให้เด็ก

วัคซีนถือเป็นเกราะป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับเด็กในช่วงวัยต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงวัยทารกและปฐมวัยที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงดีพอ การฉีดวัคซีนตามกำหนดช่วยลดความรุนแรงของโรคหรือป้องกันการเจ็บป่วยที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม หลังการรับวัคซีน เด็กอาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อยหรือรู้สึกไม่สบายตัว ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถดูแลได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่บ้าน

บทความนี้จึงรวบรวมคำแนะนำการดูแลเด็กหลังได้รับวัคซีน เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเตรียมตัวและดูแลลูกน้อยได้อย่างถูกวิธีและสบายใจมากยิ่งขึ้น




1. เฝ้าสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน

หลังฉีดวัคซีน ควรสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิดในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก โดยเฉพาะภายใน 30 นาทีแรก หลังการฉีด เนื่องจากเป็นช่วงที่อาจเกิดอาการแพ้รุนแรง (anaphylaxis) ได้ ซึ่งแม้จะพบไม่บ่อย แต่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง

อาการที่ควรสังเกต ได้แก่:

  • ไข้ต่ำถึงปานกลาง

  • ร้องกวนหรือหงุดหงิดผิดปกติ

  • บวม แดง เจ็บบริเวณที่ฉีด

  • ง่วงซึมหรืออ่อนเพลีย

  • เบื่ออาหารหรือไม่ยอมดูดนม

  •  มีไข้สูงเกิน 39°C ที่ไม่ลดลงภายใน 24 ชั่วโมง

  • หายใจลำบาก หรือมีเสียงหายใจแปลก ๆ

  • ผื่นลมพิษขึ้นทั่วตัว

  • อาเจียนหรือท้องเสียรุนแรง

  • ซึมหรือไม่ตอบสนอง


2. การดูแลทั่วไปหลังการฉีดวัคซีน

การดูแลอย่างเหมาะสมช่วยให้เด็กฟื้นตัวได้ดีและลดความเสี่ยงจากอาการไม่พึงประสงค์

  • ให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมากในช่วง 1–2 วันแรก

  • ให้ดื่มน้ำหรือนมบ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

  • หากมีไข้ ให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น และอาจใช้ยาลดไข้ (เช่น พาราเซตามอล) ตามคำแนะนำของแพทย์

  • หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดแรงบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้เจ็บมากขึ้น

  • ถ้าเด็กยังคงร้องโยเยมากหรือมีไข้ติดต่อกันเกิน 48 ชั่วโมง ควรพากลับไปพบแพทย์


3. การจัดการอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด

อาการบวม แดง หรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีดวัคซีนถือเป็นปฏิกิริยาทั่วไปของร่างกายต่อวัคซีน

  • ไม่ควรนวดหรือประคบร้อนบริเวณที่ฉีด

  • หากมีอาการบวมมาก อาจประคบเย็นเบา ๆ บริเวณที่ฉีดวันละ 2–3 ครั้ง ครั้งละ 5–10 นาที

  • ให้เด็กสวมเสื้อผ้าที่หลวม สบาย ไม่รัดแน่นตรงตำแหน่งที่ฉีด


4. การให้ยาแก้ไข้

หากเด็กมีไข้หลังฉีดวัคซีน สามารถให้ยาแก้ไข้ได้ตามน้ำหนักตัวของเด็ก โดยต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ ห้ามใช้ยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพรินในเด็กเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายได้

แนวทางการให้ยาพาราเซตามอลในเด็ก:

  • ใช้ยาน้ำเชื่อมหรือยาหยดพาราเซตามอลตามอายุและน้ำหนักตัว

  • ป้อนยาทุก 4–6 ชั่วโมงหากมีไข้

  • ห้ามให้ยาต่อเนื่องนานเกิน 2 วันโดยไม่ปรึกษาแพทย์


5. การนัดรับวัคซีนครั้งถัดไป

หลังฉีดวัคซีนเสร็จ ผู้ปกครองควร:

  • ตรวจสอบสมุดบันทึกวัคซีน ว่าวัคซีนเข็มต่อไปคือเมื่อใด และต้องฉีดชนิดใด

  • จดบันทึกหรือตั้งเตือนในปฏิทินมือถือ เพื่อไม่ลืมการฉีดวัคซีนครั้งถัดไป

  • ปรึกษาแพทย์ทันทีหากเด็กมีอาการผิดปกติหลังฉีดวัคซีนก่อนนัดหมายครั้งต่อไป


การฉีดวัคซีนเป็นขั้นตอนสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเด็กและป้องกันโรคร้ายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ปกครองจึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลบุตรหลานหลังฉีดวัคซีนอย่างถูกต้อง เพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย และเติบโตอย่างสมวัย

การดูแลเอาใจใส่ด้วยความเข้าใจแม้ในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังการฉีดวัคซีน จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับทั้งเด็กและครอบครัว พร้อมรับมือกับขั้นตอนต่อ ๆ ไปของการเจริญเติบโตในทุกช่วงวัย