18 ต.ค. 2565

ต้องระวัง! 5 สัตว์อันตราย ช่วงน้ำท่วม

ในช่วงน้ำท่วม และ หน้าฝนนี้ มักมีสัตว์ต่างๆ พากันหนีน้ำ รวมไปถึงสัตว์ที่มีพิษหรืออันตรายด้วยเช่นกัน ซึ่งควรจะต้องระมัดระวัง วันนี้เราจึงมี 5 สัตว์อันตราย ช่วงน้ำท่วมมาฝากเพื่อนๆ  รวมไปถึงวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินค่ะ



1. งู

 ถือเป็นสัตว์ที่พบค่อนข้างบ่อยในช่วงน้ำท่วม ซึ่งมีทั้งแบบมีพิษ และไม่มีพิษ  โดยส่วนใหญ่ที่พบจะเป็น งูเห่า งูเหลือม งูหลาม งูแมวเซา เป็นต้น   เมื่อเกิดน้ำท่วมงูมักจะหนีน้ำขึ้นมาอาศัยอยู่บริเวณที่สูง อย่างต้นไม้ เสาไฟ รวมไปถึงบริเวณตามมุมของบ้านเรือน


การป้องกัน

- มีแสงสว่างเพียงพอ

- นอนให้สูงจากพื้น แล้วกางมุ้ง

- ใส่รองเท้าบูทเมื่อเข้าสวน

- ทำความสะอาดบ้านและดูแลบ้านให้เป็นระเบียบ

- หลีกเลี่ยงการเดินในที่แคบหรือที่รกมีหญ้าสูง โดยเฉพาะเวลากลางคืน


การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

- บีบเลือดบริเวณบาดแผลออก เพื่อขจัดพิษงูออกจากร่างกาย

- ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและฟอกสบู่หรือน้ำด่างทับทิม ใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง

- พยายามให้อวัยวะที่ถูกกัดเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด อาจดามบริเวณดังกล่าวให้อยู่ในระดับต่ำกว่าหัวใจ และรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด


2. ตะขาบ

 สัตว์ภัยร้ายที่มีพิษไม่รุนแรงเท่างู แต่ก็ทำให้มีอาการปวด บวมไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งผู้ที่มีอาการแพ้ จะทำให้ใจสั่น ปวดศรีษะ คลื่นใส้ และอาเจียนได้  รวมไปถึงอาการเนื้อตายบริเวณที่โดนตะขาบกัด  โดยสัตว์ชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่บริเวณที่ชื้น อย่าง ซากต้นไม้ เป็นต้น

สำหรับผู้ที่โดนตะขาบกัด ห้ามเกาแผลโดยเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ  ให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด จากนั้นประคบด้วยน้ำอุ่นครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการปวด  สามารถทานยาแก้ปวดอย่าง ยาพาราเซตามอล ร่วมได้ เมื่อเกิดอาการปวด

แต่หากไม่ดีขึ้น หรือเกิดการแพ้รุนแรง  มีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หน้ามืด คลื่นใส้ อาเจียน ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที


3. แมงป่อง

 ถึงแม้จะตัวไม่ใหญ่ แต่ก็เป็นสัตว์ที่มีพิษค่อนข้างรุนแรงมาก ซึ่งแมงป่องจะชอบอาศัยอยู่บริเวณที่มืด เช่น โพรงไม้ ใต้ก้อนหิน  หรือขุดรูอยู่ เป็นต้น

โดยพิษของแมลงป่องจะมากน้อยแตกต่างกัน บ้างแค่มีอาการ ปวด บวม แต่หากมีอาการรุนแรง อาจส่งผลทำให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว และความดันโลหิตสูงได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

สำหรับวิธีการปฐมพยาบาลเมื่อแมงป่องต่อย จะเหมือนวิธีของตะขาบ คือ ให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด จากนั้นประคบด้วยน้ำอุ่นครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการปวด  สามารถทานยาแก้ปวดอย่าง ยาพาราเซตามอล ร่วมได้ เมื่อเกิดอาการปวด  แต่หากมีอาการแพ้รุนแรงให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที


4. ปลิง

 เป็นสัตว์ที่ชินกับน้ำ ชอบอาศัยอยู่ในคลอง บึง  กินเลือดเป็นอาหาร   ซึ่งปลิงส่วนใหญ่ที่พบจะเป็น ปลิงควาย หรือปลิงเข็ม  ในกรณีที่ต้องมีการเดินลุยน้ำแนะนำให้แต่งกายให้มิดชิด เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว โดยบริเวณเท้าแนะนำให้หุ้มด้วยถุงพลาสติก ทับกับปลายขากางเกงแล้วรัดด้วยเชือกหรือยาง เพื่อเป็นการป้องกันปลิง

แต่หากถูกปลิงเกาะหรือดูดเลือก ห้ามใช้มือดึงออกโดดเด็ดขาด เพราะจะทำให้ปากแผลนั้นใหญ่ยิ่งขึ้น แนะนำให้ใช้น้ำมะนาว มะกรูด หรือน้ำเกลือเข้มข้น ราดลงบนตัวปลิง ก็จะทำให้ปลิงนั้นหลุดออก จากนั้นให้รีบทำความสะอาดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือ แอลกอฮอล์ค่ะ


5. แมลงก้นกระดก

 ปิดท้ายด้วยแมลงขนาดเล็กที่เพื่อนๆ หลายคนนั้นหวาดกลัวอย่าง แมลงก้นกระดก ซึ่งจะพบได้มากบริเวณใกล้แหล่งน้ำ และบริเวณที่มีแสงไฟ  ซึ่งพิษของมันนั้นค่อนข้างรุนแรงต่อผิวหนัง เพราะจะทำให้เกิดอาการผื่นแดง ตุ่มน้ำ ปวดแสบปวดร้อน คัน และผิวไหม้

หากต้องเผชิญกับแมลงก้นกระดกแบบใกล้ชิด หรือมาเกาะที่บริเวณลำตัว ห้ามตี หรือสัมผัสโดยเด็ดขาด เเนื่องจากจะทำให้โดนกัดหรือโดนต่อยได้ อีกทั้งยังทำให้พิษกระจายอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ควรทำนั้น ก็คือ การเป่าให้แมลงนั้นออกไป หรือใช้ผ้า กระดาษปัดออกไป ห้ามใช้มือสัมผัสโดยตรง

แต่ในกรณีที่โดนกัดให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาด และ พบแพทย์ในทันที ทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถดูวิธีการป้องกันแมลงก้นกระดกเข้าบ้านได้ที่นี่เลย